อยากไปยุโรปช่วงนี้ แต่ไม่อยากรอทำวีซ่า …

แล้วก็มาค้นพบว่า รัสเซีย นี่แหละ ยุโรปที่คนไทยไม่ต้องทำวีซ่า! ♪┏(°.°)┛┗(°.°)┓┗(°.°)┛┏(°.°)┓ ♪ เย้!

หลังจากนั้นเราก็เริ่มหาข้อมูลการเที่ยวรัสเซีย ซึ่งหลังจากคนทราบว่าเราจะไปรัสเซีย กระแสตอบรับก็คือ…

“จะไปทำไม??! เค้ายิงกันอยู่ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวโดนสอยหรอก”

“ระวังนะ อันตรายมาก ทั้งมาเฟีย ทั้งตำรวจจอมไถ ชอบเล็งนักท่องเที่ยวนี่แหละ”

แถมข่าวล่าสุด สองวันก่อนไป เมื่อเรา search Aeroflot เพื่อจะซื้อตั๋วเครื่องบินของสายการบินรัสเซีย (ราคาถูกมาก):

“ข่าวด่วน: ผลสรุป MH17 – กบฏยูเครนตั้งใจยิงเครื่องบิน Aeroflot ของรัสเซีย เพื่อจัดฉาก แต่ดันพลาดยิง MH17 ของมาเลย์ตกแทน”

โห ข้อมูลและข่าวแต่ละอัน ไม่ค่อยเป็นใจเลยนะคะ

ทริปฮันนีมูนรอบ 10 ปีที่รัสเซียของเราสองคน ดูน่าสะพรึงกลัวเสียเหลือเกิน

เวลาคนไปรัสเซีย มักจะไปเมือง St. Petersburg ซึ่งร่ำลือกันว่า สวยงามที่สุด ความสวยกระแทกตาทันทีที่ไปถึง  ฯลฯ

แต่เนื่องจากการไป St. Petersburg  ต้องต่อรถไฟซึ่งใช้เวลานานสำหรับคนหนีลูกไปเที่ยวเป็นครั้งแรกอย่างเราสองคน  หรือไม่ก็สายการบินภายในประเทศ ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะโดนยูเครนหรือศัตรูทั่วสารทิศสอยหรือจี้รึเปล่า … เราจึงตัดใจไปแค่ Moscow โดยคุณแฟนปลอบว่า

“ใครๆไปก็ต้องไปเมืองหลวงก่อน สถานที่สำคัญๆก็อยู่ Moscow นี่แหละ ไปเถอะ มีเวลาแค่ 4 วันเอง”

และเพื่อความปลอยภัยยิ่งขึ้น เราเลยบินการบินไทย แทนที่จะไป Aeroflot ของรัสเซีย

เหมือนจะจบแค่นั้น … แต่… คืนก่อนเดินทาง มิ้งค์ดันนึกไปถึง คำพูดของรองประธานบ. Apple ซึ่งเคยบอกว่า … “เวลาผมเดินทางกับแฟน ผมจะไปคนละไฟลท์กับแฟนเสมอ เผื่อเครื่องบินใครตกขึ้นมา จะได้มีอีกคนไว้อยู่ดูแลลูก” ทำเอาคนที่ไม่เคยจากลูกไปไหนตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา คิดหนักว่า…หากครั้งนี้ จะไม่ได้กลับมาเจอลูกอีก จะทำยังไง (…เศร้ายังกะถูกส่งไปรบ ที่รัสเซีย)

ความวิตกจริตนั้น ทำเอาเกือบแคนเซิลทริปเอาวันสุดท้าย เพราะฟังความน่ากลัวและเสพย์ข่าวไม่ดีของ Moscow เอาไว้มาก แถม Tripadvisor ยังจัดอันดับ ให้ Moscow เป็น 1 ใน 3 เมืองระดับโลก ที่ไม่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวที่สุด

เช้านั้น ลูกจอนจอนตื่นมาส่งแต่เช้า ทั้งๆที่ทำใจไม่ค่อยจะได้ แต่ในที่สุด ลูกสุดที่รักทั้งสองก็เข้าใจ ว่าพ่อกับแม่จะไปเที่ยวกันเองสองคนบ้าง แล้วจะรีบกลับมา …

จอนจอนยืนทำตาละห้อย กลั้นน้ำตาสุดขีด ตอนที่มามี้กับแด๊ดดี้ขึ้นรถ กำลังจะขับออกไป

______________

สนามบิน

นี่เป็นการบินกับการบินไทยครั้งแรกที่แทบจะไม่เห็นคนไทยเลยค่ะ มีแต่คนรัสเซียทั้งลำ มีแค่ตอนลงมาแล้ว เจอคนไทย … คือคุณพิงกี้และแฟนนี่เอง

สนามบินสู้สุวรรณภูมิไม่ได้ แต่ทันสมัยใช้ได้นะคะ ทราบมาว่าเขาเพิ่มบูรณะไปไม่นาน

คำเตือนแรกและสุดท้าย

แท็กซี่ ที่ Moscow แย่มากๆ มีแท็กซี่เถื่อนโหดและโกงเยอะเหลือเชื่อ เรียกว่าแทบทุกคันที่คุณโบกเรียก น่าจะโกงนะคะ

ได้ทราบกิตติศัพท์ความเถื่อนของแท็กซี่ที่นี่ เราเลยพยายามจะโทร.ไปที่โรงแรม ให้เขาส่งรถมารับโหน่ย … แต่ใช้โทรศัพท์สาธารณะไม่สำเร็จค่ะ จึงเดินไปเคาน์เตอร์แท็กซี่ของสนามบิน

เจอ แท็กซี่นักเลง หัวโล้น ตัวเตี้ยแต่กล้ามโต ตามจิกเราสองคนไม่ปล่อย แถมโกหกหน้าด้านๆ ว่า เคาน์เตอร์แท็กซี่ของสนามบินน่ะ บริษัทเค้าเอง “โพ้มนี่แหละ เจ้าของบริษัท พูดอังกฤษได้ คนอื่นพูดไม่ได้ ยูจะไปไหน จะไปไหน” เห็นเราบ่ายเบี่ยง พี่แท็กซี่ เริ่มกดดัน

ใช้สายตามหาโหด จ้องไม่เลิก

แม้กระทั่งเรามาต่อแถวอยู่ที่เคาน์เตอร์ของสนามบินแล้ว ก็ยังเจอรังสีอำมหิต

แต่เราทำเป็นไม่สน แล้วก็บอกที่เคาน์เตอร์ถึงจุดหมายที่เราจะไป … พร้อมกระซิบว่า แต่ไม่เอาคนขับคนนี้นะคะ น่ากลัวเกินไปง่ะ … คนที่อยู่หน้าเรา หันมาบอกทีหลังว่า ยูทำถูกแล้ว อย่าเรียกแท็กซี่เถื่อนพวกนี้เด็ดขาด ใช้บริการสนามบินนี่แหละ ปลอดภัย … (แต่ตอนที่เค้าจ้องๆอยู่นี่ ไม่เห็นมีใครเตือนแฮะ)

แล้วเราก็เดินตามกันไปเป็นพรวนกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ เพื่อไปขึ้นแท็กซี่

คนขับแท็กซี่ พูดอังกฤษไม่ได้เลย และก็หน้านิ่งๆบูดๆ

ระหว่างทาง อยู่ๆพี่ท่านก็เอามือยื่นมาข้างหลัง เหมือนจะมาจับขาเรา จ๊ากกก!!! อ้อ เปล่าค่ะ เค้าแค่จับเบาะที่นั่ง ให้หายเมื่อยละมั้ง สักพัก เอาอีกละ ยื่นมือมา ถือแท่งอะไรดำๆอะ ปืนรึเปล่า??? อ้อ เค้าจับที่ปรับพนัก ที่มันอยู่ด้านหลังเยื้องๆข้าง

โอ้ย ตอนแรกๆนั่งไปหวั่นไปตลอดทาง … จนสักพักเริ่มชมวิวเพลินๆ บ้านเมืองดูเรียบร้อยดีนะคะ

มีบ้านใหญ่ๆสไตล์ชาโตว์ คงจะเป็นหมู่บ้านจัดสรรชั้นดีของเขา อยู่ประปราย สวยทีเดียว

ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงโรงแรมใจกลางเมือง

เราเลือกพักที่โรงแรม Ritz-Carlton ซึ่งโลเคชั่นดีมากๆ ขอแนะนำเลยค่ะ เยี่ยมทั้งทำเล บริการ และห้องที่พัก ได้ทราบมาว่า ดาราฮอลลีวูดคนไหนๆมา ก็มักจะมาพักที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น แองเจลินา โจลี่ หรือ จอนนี่ เด็ป

ตอนเช็คอิน พนักงานบอกว่า ห้องมีวิวเต็มแล้ว … ให้เราไปลองดู สองห้อง ที่เราอาจจะโอเค

ห้องแรก หน้าต่างเล็กๆเป็นกลมๆ เหมือนเรือดำน้ำ (เนื่องจากโรงแรมเป็นตึกโบราณ เอามาบูรณะ แต่ละห้องจึงแตกต่างกันออกไป) วิวหันไปด้านหลัง เห็นแต่หลังคาๆ … ไม่ค่อยชอบ

อีกห้อง เป็นเตียงคู่ (อ้าว ฮันนีมูน ให้นอนคนละเตียงรึ) แต่วิวดี เปิดเข้าไปแล้ว ว้าวเลย เพราะเห็นทุกจุดท่องเที่ยวหลักทีเดียว Red Square, Kremlin Palace, St. Basil และโดมทองๆมากมาย

เราตัดใจ เลือกเตียงคู่ก็ได้ แล้วเดี๋ยวกลางคืนเราจะดันเตียงมาติดกันเองละกัน :p

พอกลับลงมาที่เช็คอิน จนท.สาวสวยบอกว่า รอแป๊บบบ มีข่าวดี

แล้วเธอก็บอกว่า หาห้องเตียงคิงส์และวิวเด็ดสุดๆ ชั้นสูงให้เราได้แล้ว อัพเกรดให้เป็นห้องนี้เลย 😀 ดีใจมากเลยค่ะ

Tip:

อย่าคิดว่าเป็น Ritz-Carlton, Grand Hyatt แล้ววิวจะดีเสมอไปนะคะ อย่าง Ritz เนี่ย ห้องจำนวนมาก ไม่มีวิวเลย! เพราะหันเข้าด้านในโรงแรม ซึ่งเห็นแต่ ลิฟท์!

ห้องโรงแรมในใจกลางเมืองส่วนใหญ่ วิวไม่ค่อยดี เพราะโดนตึกบังกันเองและไม่ค่อยสูง ยกเว้น Four Seasons ที่กำลังจะเปิดสิ้นปีนี้ วิวน่าจะสุดยอด เพราะอยู่บนลาน Kremlin เลยทีเดียว (เทียบได้กับโรงแรมอยู่บนสนามหลวง) ไม่มีอะไรบังวิวเลย

____________________________________

หน้าร้อน มืดช้า ทุ่มกว่าก็ยังสว่างอยู่เลย บรรยากาศและอากาศ ดีมาก

ถนนที่นี่กว้างใหญ่มาก การจะข้ามไปอีกฝั่งต้องมุดไปใต้ดิน แล้วเลือกให้ถูกทิศ ว่าอยากโผล่ขึ้นมาที่ไหน บางทีเราเลือกผิดทิศ โผล่ผิดด้าน ก็ต้องเดินใหม่อีก มึนทีเดียว

โรงแรมเราอยู่ตรงสถานี Oshkosh … ฮ็อตด็อกที่สถานีใต้ดินนี้ อร่อยมากนะคะ เส้นยาว เปลือกกรอบเด้ง แต่ข้างในนุ่ม ให้ความรู้สึกเดียวกับที่เดนมาร์กเลย ชอบมาก คุณแฟนกินวันละหลายอัน

เราสองคนรู้สึกอึ้งกับความสวยงามข้างหน้า ผู้คนแต่งตัวสวยงามสดใส และการตกแต่งซุ้มด้วยดอกไม้มากมาย นึกไม่ถึงเลยว่ามอสโคว์จะสวยและบรรยากาศดีขนาดนี้

มีนกยูงให้เราดูเล่นอีกต่างหาก

ถึงจะเพิ่งลงจากไฟลท์ 10 ชั่วโมง เราสองคนกลับมีแรงเดินไปเรื่อยๆ สวยจริงๆ

ความสะอาดของที่นี่ น่าประทับใจมากค่ะ ส่วนนึงก็เพราะเค้ามีรถทำความสะอาดถนน คอยแล่น กวาดๆถูๆ อยู่เรื่อยๆ ดีแฮะ

อนุเสาวรีย์ …

ตึกแดงแรงฤทธิ์ สวยเชียว ตัดกับหลังคาขาว ดูเหมือนมีหิมะขาวโพลนอยู่บนหลังคาตลอดเวลา (ก่อนหน้านี้ เราหลงคิดว่า คนอื่นๆที่ถ่ายรูปสวยๆ เค้ามาช่วงหิมะลงนะเนี่ย)

ตรงนี้ มี นายทหารไม่ทราบนาม ฝังอยู่ มีทหารยืนเฝ้า มีไฟจุดอยู่ตลอด และคนมามุงถ่ายรูปกันมากมาย

ตรงนี้ท่านเลนินค่ะ เราไม่เข้าไปหรอกนะ ใครอยากเข้าไปดูก็ต่อแถวเข้าไปได้

ห้างน้ำพุ มีห้างอยู่ข้างในนะคะ เราเพิ่งรู้วันสุดท้าย ว่านี่แหละ ห้างที่คนธรรมดาซื้อได้ ไม่แพงหูฉี่เหมือน  GUM และ TSUM ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป “ถ่ายรูป”

เดินไปเรื่อยๆ ไม่อยากกลับเลย เรี่ยวแรงไม่รู้มาจากไหน กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สี่ทุ่ม แล้ว ได้เวลากลับโรงแรม

วิวที่เราเห็นจากห้อง เหมือนเทพนิยายไม่มีผิด คิดอีกที เหมือนดิสนีย์แลนด์! ปราสาทและโบสถ์ ยอดแหลมๆแปลกๆ มากมาย อยู่ตรงหน้าเรานี่เอง มองทีไรก็ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ว่าจะป๊ะหน้ากับมหาวิหารเซนต์เบซิลกันจังๆอยู่ตลอดเวลาขนาดนี้ มองกี่ทีก็ไม่เบื่อ

วันที่ 2

ห้าง GUM, Red Square, ถนน Arbat สระว่ายน้ำคริสตัลชวาสรอฟสกี้ของโรงแรม

 

วันที่ 3

ตลาด Izmaylovo, ถนนคนเดิน

วันที่ 4

Kremlin, Arbat

 

หลังจากกลับจากทริปนี้ สรุปว่า Moscow เป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากกกกก แต่ไม่มีคนไทยไปเที่ยวเลย จึงอยากบอกเพื่อนๆว่า ถ้าคิดจะไป ไปได้เลย ความน่ากลัวเป็น 0 รู้สึกปลอดภัย เที่ยวสบายและง่ายมากๆ สวยสุดๆ ยุโรปสุดๆ มีถนนคนเดินหลายเส้น (ขนาดเราไปมาแทบจะทุกเมืองท่องเที่ยวในยุโรปแล้ว ยังคิดว่า ที่นี่น่าเที่ยวมากๆค่ะ)

ของแถมอีกอย่างคือ ทริปนี้ เจอดารา หลายคน ทั้งไทยและเทศ

นี่ Akon, Steven Seagull