Bitter sweet moment: 3 months and 3 years

วันนี้น้องฟ้าใสอายุ 3 เดือนแล้ว พี่ชายจอนจอนก็ 3 ขวบ แด๊ดดี้มามี้ก็ 33 ปี

ตั้งแต่น้องเกิด มามี้ไม่มีเวลาเขียน blog เลย อยากจะจดบันทึกไว้ให้ลูกได้อ่าน แต่ก็ได้แต่จดเล็กๆน้อยๆใส่ twitter บ้าง instagram บ้าง facebook บ้าง emails บ้าง มั่วไปหมด

วันนี้หยุดทำงาน มาตั้งใจเขียนซะที

 

 

พวกเราคิดว่าหนูน่ารักมาก ทั้งหน้าตาและนิสัย

หน้าตาจิ้มลิ้ม ตาโตมากยาวเรียว ดูสวยซึ้ง ปากนิดจมูกหน่อย ยิ้มหวานที่มุมปากเป็นประจำ

ใครเห็นตัวจริงก็อดชมไม่ได้ว่า น่ารักน่าเอ็นดู โตขึ้นสวยแน่นอน (จริงอ้ะ?)

แต่ถ่ายรูปยังไง ก็ไม่น่ารักเท่าตัวจริง … ประมาณว่า ถ่ายรูปไม่ขึ้น?? แถมเห็นกล้องทีไร จะเก๊กหน้า หุบยิ้มทันที พร้อมทำท่าคิดหนัก…คงจะคิดว่า … เจ้านี่อะไรน้า มาจ้องเราอยู่เรื่อย …

แด๊ดชอบบอกว่า ทำหน้าสวยดูนางแบบเหมือนแอ๊ฟทักษอร มามี้บอกว่าหนูเหมือนแพนเค้ก แล้วแด๊ดก็บอกว่าสวยกว่าอีก...หลงลูกตัวเองกันจังนะคะ

 

นิสัยเรียบร้อย อ่อนหวาน อ้อๆแอ้ๆ ดูเป็นกุลสตรีเป็นที่สุด

แต่ยังไม่แน่ อย่าเพิ่งหลงดีใจไป…อีกหน่อยอาจจะทะเล้นเป็นคู่แฝดพี่ชายก็ได้ (มามี้คิดจะซื้อ Jumperoo ให้ฟ้าใสกระโดดดึ๋งๆๆๆเป็น crazy kid ออกกำลังกายขา แต่แด๊ดดี้เบรคไว้ก่อน บอกว่า…มีลูก active คนเดียวก็พอแล้ว ขอเก็บคนนี้ไว้เงียบๆเรียบร้อยๆแบบนี้แหละ ซื้อโมบายมาให้นอนดูก็พอ)

 

เห็นทีไรก็รู้สึก นิ่ง สงบ เยือกเย็น เหมือนชื่อ Serenity หรือ Serena (ที่ตอนแรกมะกับแด๊ดก็เล็งไว้ มี Serena กับ Trinity แต่โดน Annabella แซงโค้งสุดท้ายไป – Annabella แปลว่าน่ารัก ก็สมชื่อเหมือนกันค่ะ)

Annabella Hope Py Ada Fa-Psi  :

Hope นี้ พี่ชายตั้งให้

Py พาย มาจากภาษาคอมพ์ programming language Python (ตอนแรกจะให้สะกด Pi แต่คนมักอ่านเป็น ปิ ไม่ใช่ พาย น่ะสิ)

Ada เป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก เป็นผู้หญิงซะด้วย Lady Ada Lovelace

ฟ้าใส เป็นชื่อที่คุณปู่ตั้งให้ เปรียบเหมือนท้องฟ้าที่สดใส ในช่วง summer ที่หนูเกิด และท้องฟ้าสดใสในชีวิตครอบครัวของเรา

สะกด Fa = the 4th musical key as you were born on the 4th; Psi = math symbol Ψ  for the love of mathematics and science

เช้าวันที่หนูเกิดเป็นวันที่อากาศสดใส สามวันที่โรงพยาบาล พวกเรานอนบนเตียงกันนิ่งๆ หนูนอนบนเตียงกับมามี้ โดยมีแด๊ดดี้นอนบนโซฟา มามี้รู้สึกมีความสุขมาก ได้นอนกอดหนูอยู่ใกล้ๆกับแด๊ดแบบสงบ รู้สึกอุ่นใจและมีความสุข

 

ฟ้าใสเป็นเด็กเรียบร้อย แต่เวลาร้องไห้ ไม่เคยยอมแพ้ …

หนูต้องนั่งรถเยอะหน่อย เพราะมามี้ต้องไปรับส่งพี่ชายจอนจอน และก็ออกไปนอกบ้านกันบ่อยๆ

ฟ้าใสไม่ชอบนั่งคาร์ซีท คงเพราะมองไม่เห็นอะไร เห็นแต่เบาะ ร้องได้ติดกันได้ยาวนานมาก ร้องตั้งแต่ออกจนถึงที่หมาย … บางทีเห็นเงียบแล้ว แด๊ดดี้หลงดีใจว่าหยุดแล้ว (ตามที่คนบอกว่าปล่อยร้องบ้าง จะได้ชิน) … ปรากฏว่าหนูแค่พักเหนื่อย ชาร์ตพลัง 30 วิ แล้วก็ร้องต่อ…มีความมุ่งมั่นจริงๆลูกรัก

ตอนกลางวันหนูชอบให้อุ้มตลอด (ตั้งแต่อายุได้เจ็ดวัน มามี้ก็สังเกตุว่า…วางให้หนูนอนเองใน crib ไม่ได้แล้วแฮะ ต้องกล่อม ต้องอุ้ม) แต่ตอนกลางคืน หนู หลับเก่งค่ะ ไม่สับสนกลางวันกลางคืน

แค่ตื่นมากินนม บางทีก็เปลี่ยนผ้าอ้อม แล้วก็หลับต่อ

ช่วงสองเดือนยิ่งเก่ง นอนยาวได้ 5 ชม. ตื่นมากินนมกลางดึกแค่รอบเดียวเอง

แถมเริ่มนอนกลางวันเองเป็น… ถึงเวลานอน มามี้พาไปส่งใน crib ก็พอนอนได้บ้าง … หรือถ้าตื่นก็นอนเล่นคนเดียวได้บ้างแล้ว

แต่ตั้งแต่มามี้กลับมาทำงาน ต้องให้นม formula บ้าง…วันไหน มีเรียมแนนนี่ เป็นคนให้กิน formula คืนนั้นต้องตื่นหลายรอบทุกที ไม่รู้เป็นยังไง…

พอเกือบๆสามเดือน ฟ้าใส ชอบนั่งและยืนมาก เวลามามี้ชวนนั่ง จับสองมือ แล้วนับ One Two Three!!! ฟ้าใสก็จะดึงตัวยกตัวขึ้นมาเองเลย เมื่อคืนแด๊ดดี้ลองทำดู แด๊ดประทับใจในความแข็งแรงของฟ้าใสจังจ้ะ

แล้วแด๊ดดี้ก็ดีใจ รีบลงมาเรียกมามี้ขึ้นไปดู แด๊ดดี้ทำปากทำเสียง เปาะ เปาะ เปาะ แล้วฟ้าใสหัวเราะ เอิ้กอ้ากๆๆๆ ทำเอาแด๊ดตื่นเต้นใหญ่เลย

มามี้ให้ฟ้าใสนั่ง Bumbo ตั้งแต่ 10 weeks ฟ้าใสนั่งได้สบายมาก ชอบนั่งดูพี่ชายเล่นเป็นที่สุด

แต่ก็กลัวๆพี่ชายนิดหน่อย เพราะพี่ชายชอบกระโดด แล้วล้มทับฟ้าใส สองรอบแล้ว ร้องไห้จ้าเลย พี่ชายก็ขอโทษใหญ่เลย

มามี้แด๊ดดี้คอยดูแล ระวังพี่ชายล้มทับ คอยบอกพี่ชายให้เล่นไกลๆน้อง แต่พี่ชายรักน้อง ชอบมาเล่นอยู่ใกล้ๆ

ชอบปีนเข้าไปหา เช่น เวลามามี้เผลอ ก็จะปีนเข้าไปนั่งเล่นเป็นเพื่อนใน crib เลย >_<

 

บางทีมามี้แอบเห็นพี่ชายชนน้องเล็กน้อย พี่ชายก็หันมาเอามือลูบหัวน้อง ตบเบาๆ แบบว่า “โอเคนะ โอเคนะ โทษทีนะครับ แหะๆ”

อ้อ พี่ชายพูดกับน้อง จะพูดว่า “ครับ” ตลอดเลย เช่น เวลามามี้ทำเสียงน้องถามจอนจอนว่า “พี่จอนจอนทำอะไรอยู่คะ” จอนจอนก็บอกน้องฟ้าใสว่า “พี่จอนจอนเล่น truck อยู่ ครับ”

ร้อนมั๊ย...พี่ชายบังแดดให้นะครับ...

เวลาพี่จอนจอนเอาของเล่นยื่นให้ ฟ้าใสก็จะดีใจ ยิ้มร่า ทุกครั้ง (ถึงจะดีเลย์ไปนิด พี่ชายหันไปทำอย่างอื่นแล้ว) เวลาพี่ชายไปทำอย่างอื่น ฟ้าใสก็จะกวักมือเรียก พร้อมกับส่งเสียงแอ้ๆ

 

มีวันนึง เวลาพี่ชายให้ของเล่น ฟ้าใส ยิ้มแล้วตอบพี่ชายว่า ก๋อย ก๊อยยยย

พวกเราคิดว่าฟ้าใสจะบอกว่า แธงค์กิ๊ว ละมั๊ง…. พี่ชายดีใจใหญ่เลยจ้ะ

มามี้ดีใจจัง ที่เลี้ยงลูกให้มีจิตใจอ่อนโยน รักน้องได้แบบนี้ (มีวันนึงน้องหลับ พวกเราสามคนมาจัดโรงรถกัน จอนจอนพูดขึ้นมาว่า I hear someone crying. …. and I think…that’s baby Hope!!! แล้วบอกให้มามี้รีบไปดูน้องใหญ่เลย)

ล่าสุด ตอนฟ้าใสอายุสามเดือน อยู่ดีๆวันนึงมามี้ก็รู้สึกว่า ฟ้าใสเปลี่ยนไปเลย … รู้เรื่องขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย … ไม่ใช่เด็กเพิ่งเกิดอีกต่อไปแล้ว … ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ มามี้รู้สึกว่า ฟ้าใสไม่เห็นมีพัฒนาการต่างกับตอนเพิ่งเกิดเท่าไหร่เลย.

I felt like overnight my newborn has turned into a big baby. It was a bitter sweet moment. It was hard knowing those days were gone and gone forever as this will be my last kid, but then I looked down at her and she flashed a gorgeous smile. I felt so blessed.

อัพเดตเรื่องพี่ชายบ้าง

ตอนนี้พี่ชายจอนจอนไปโรงเรียน Stratford อาทิตย์ละสามวันแล้ว M W F

อยู่ตั้งแต่ 9am ถึง 5:30pm เลย มามี้สงสารจอนจอนที่ต้องอยู่โรงเรียนนานขนาดนี้

คิดอยู่บ่อยๆว่า อายุยังไม่ถึง 3 ขวบ ต้องไปเรียนแต่เช้าขนาดนี้ และ กลับเย็นขนาดนี้

จอนจอนคนเก่งไหวใช่มั๊ยครับ? ทุกวันจันทร์ มามี้จะรู้สึกอยากอยู่บ้านกับจอนจอน คิดถึงจอนจอนจังเลย

ตอนเช้าแด๊ดไปส่ง จอนจอนกับแด๊ด ก็จะบ๊ายบายมามี้จนลับสายตา (ซึ้ง)

ตอนเย็นมามี้ไปรับ จอนจอนจะดีใจ รีบวิ่งมาหา ชี้แล้วอวดคนอื่นด้วยว่า That’s my mommy, my mommy! My mommy is here!

จอนจอนชอบโรงเรียนนี้มาก เป็นโรงเรียนที่ดีมาก มากซะจน ทั้งแด๊ดดี้และมามี้คิดว่า ถึงจะไกลเกินไป ก็ยังจะพยายามไปส่งไปรับ เพราะดีจนทำใจให้ออกไม่ได้ (ไม่เคยคิดเลยว่าอยู่อเมริกาจะมีปัญหานี้)

จอนจอนขอ Miss Michelle ให้เป็นเพื่อนจอนจอน เพราะจอนจอนชอบ Miss Michelle มาก และมิสมิเชลก็ชอบจอนจอนมากเช่นกัน

สอนก็ดี นอกจากมีครูประจำชั้นสองคนแล้ว ยัง มี Science Teacher, Spanish Teacher, Music Teacher (Miss Vu) ที่จอนจอนชอบเรียนมาก ชอบบอกมามี้ว่า Miss Vu was playing the piano, and we sang many many songs….and I was thinking about you. I was thinking where you were. (เวลามีอะไรสนุกๆ จอนจอนจะคิดถึงมามี้เสมอ อยากให้มามี้มาอยู่สนุกด้วยกัน)

Science Teacher ก็สอนเรื่อง ฤดู (JJ ประทับใจ หลังจาก daylight saving ออกจากโรงเรียนมาก็มืดแล้ว Wow! it’s dark now. นอน nap ตื่นมาก็มืดแล้ว… นี่ JJ รอหิมะอยู่) เรื่องร่างกาย (JJ said my brain controls my body, etc.) เรื่อง Farm , Water Evaporation/ Condensation, Rain cycle, etc.

แถม JJ พูด Spanish ได้ด้วย… อยู่ดีๆก็แปลให้มามี้ฟังว่า Turkey คือ Pavo และก็ มีคำว่า pumpkin, etc. อีกหลายคำ

ตอนเสาร์อาทิตย์ จอนจอนชอบไปเที่ยว Stanford กับ Los Gatos มาก เป็นที่โปรดของจอนจอนเลยล่ะ

 

วิว Stanford from the Math Library

และก็อยากไปดิสนีย์แลนด์ บ้านพูห์แบร์ที่เราไปปีที่แล้ว ตั้งแต่จอนจอนยังพูดไม่ค่อยเก่ง … ตอนนี้พูดเก่งมาก หยุดไม่ได้เลย … ทำไม ทำไม ทำไม ตลอดเวลา

เนื่องจากจอนจอนอุตส่าห์จำได้ อยากไปมาก ก็เลยพาไป… ไปตอนนี้แหละ สนุกประทับใจมากๆสำหรับจอนจอนเพราะจอนจอนยังเชื่อว่า ตัว characters ต่างๆนั้นมีจริงอยู่ อินมากกก ถ้าโตกว่านี้ก็ไม่อินแล้ว…คงจะสนุกคนละแบบ

สุดท้ายนี้ จอนจอน ลูกรัก นอนหลับได้เอง โดยให้แด๊ดกับมะเฝ้าอยู่หน้าประตู … (บางวัน มีการบอกให้ มามี้ Go ด้วย เพราะจอนจอนจะหลับเองได้แล้ว)

จอนจอนรักมามี้ ติดมามี้มากกกกกกกกก ที่สุดในสามโลก กลางคืนและเช้าก็ตื่นมา “จะนอนกับมามี้ครับ”

เราอยู่ที่นี่ ไม่มีระบบปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้อง มาช่วยเลี้ยงเหมือนที่เมืองไทย โลกทั้งโลกของจอนจอนตอนนี้ก็เลยเป็นมามี้กับแด๊ดดี้ แต่ช่วงเวลาที่จอนจอนจะอยู่ใกล้ชิดพ่อแม่นั้นคงน้อยมาก เมื่อเทียบกับช่วงอายุคน อีกเดี๋ยวยิ่งโตไปก็เจอพ่อแม่น้อยลงไปทุกทีๆ พวกเราจะพยายามเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ไว้มากๆนะครับ (ถึงจะเหนื่อยโฮกก็ตาม)

ตอนนี้เนื่องจาก Flea แมวที่รักของจอนจอนที่ย้ายไปอยู่ ซาน ฟราน กับลูก Chad ได้ตายจากไป เพราะโดนรถชน 🙁 จอนจอนสงสารมันมาก และก็คอยคิดวิธีช่วย Flea เช่นบอกว่า จะถือ Stop Sign ไปโชว์รถ แล้วก็บอกรถว่า Stop! so that Flea won’t die.

บวกกับการที่จอนจอนฟังนิทานเรื่อง Love You Forever (ทีแด๊ดดี้เคยอ่านสมัยอยู่ ISB แล้วประทับใจ) ฟังแล้วอินมาก … กลัวมามี้แก่ และตาย

ชอบถามว่า Mommy, are you gonna die? มามี้ก็ตอบว่าทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่อีกนานมากกกก กว่ามามี้จะตาย ต้องรอจอนจอนมีลูกก่อนนะ

จอนจอนก็ยังกลุ้มใจอยู่เรื่อยๆ คอยบอกว่า But I don’t want you to die. :~

อันนี้ดร.ลอยด์บอกเราว่า เด็กยังไม่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของเวลา ปัจจุบัน อนาคต จอนจอนคงจะไม่รู้ว่าอีกนานมาก มันนานแค่ไหน แล้วก็คอยคิดว่า แม่จะตายเมื่อไหร่ ตายอย่างไร อะไรแบบนี้

ก็เลยต้องอธิบายให้จอนจอนหายกังวล ว่าแม่ไม่ตายหรอกจ้ะ จะอยู่กับจอนจอนไปอีกนานๆเลย

ช่วงนี้จอนจอนไปโรงเรียนเพิ่มขึ้น มามี้กลับมาทำงานมากขึ้น ต้องออกไปข้างนอก และออกไปกับแด๊ดดี้สองคนบ้าง ต้องมีแนนนี่มีเรียมมาอยู่เพิ่มขึ้น จอนจอนก็เลยคิดถึงมามี้แด๊ดดี้มาก

นอนตอนกลางคืนก็จะร้องไห้ละเมอ…แด๊ดดี้จับใจความได้ว่า…. “…. long long time.” หมายถึง วันนี้มามี้แด๊ดดี้หายไปนานมาก long long time :~

แล้วจอนจอนก็จะร้องขอนอนกับมามี้ ไม่ก็ถามว่า Where are you, mommy? ตอนกลางคืน … แล้วก็ชอบบอกว่า จอนจอนเหงา…

ตอนนี้ลูกสองคนนอนประกบมามี้ ชิดมากกกก คนละข้าง เบียดจนมามี้ต้องนอนตะแคงเลย แม้แต่ฟ้าใสที่อายุแค่สองเดือนก็ยังดิ้นๆกลิ้งๆมาชิดกับมามี้ จอนจอนก็ต้องเอาหัวมาพิงมามี้ไว้ และเอามือคอยจับๆว่ายังอยู่รึเปล่า (อาการหนัก) เวลามามี้ต้องออกไปข้างนอก จอนจอนก็จะร้องไห้แบบนี้:

เนื่องจากจอนจอนเข้าใจว่า ถ้าจอนจอนกินเองเก่งขึ้น ทำอะไรเองได้มากขึ้น ก็จะทำให้มามี้เหนื่อยน้อยลง จอนจอนกลับมาบ้านก็เลยพยายามถอดถุงเท้าเอง ถอดเสื้อผ้าเอง แล้วพูดว่า “ช่วยมามี้” (คือ ไม่อยากทำหรอกนะ แต่เพื่อมามี้เลยทำ…) แด๊ดดี้ฟังแล้วมี happy tears เลย…ซึ้ง

จอนจอนบอกว่าไม่ชอบมีเรียม มามี้ถามว่า ทำไมไม่ชอบมีเรียมละครับ จอนจอนบอกว่า “เพราะเค้าเป็น nanny น่ะ”

ตอนแรกมามี้กำลังคิดจะกลับไป Reinstate โปรแกรม PhD & Computer Science ที่ Stanford

คิดไปคิดมา เลยเลิกละ มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว ถ้ากลับไปเรียนจะเห็นแก่ตัวต่อครอบครัวเกินไป … อายุ 33 ยังพอว่า (เพื่อนที่เรียนเอก แก่กว่านี้มีอีกหลายคน) แต่บ้านไกล ลูกสอง โอ๊ตเป็น ADD อีกต่างหาก เฮ้ย… กลางวันไป seminars , ทำ RA, TA, เย็นอ่านหนังสือ กลางคืนเขียน papers แล้วลูกกับแฟนล่ะ…รอแม่กันงั่กเลย… กลับไป เดี๋ยวก็คงต้องลำบากใจขอลา on leave อีกแล้ว… 😉

เห็นว่าจอนจอนมีพรสวรรค์ด้านการเป็น Entertainer พวกเราคุยกันว่าจะส่งเสริมไปเรียน acting, การพากย์ และ ร้องเพลงดีมั๊ย…แต่แด๊ดดี้เบรคไว้ว่า…เดี๋ยวอีกหน่อยวันๆต้องพาลูกไป casting งานหรอก…แล้วเราสองคน ใช่ว่าจะ social ซะเมื่อไหร่ … เลยเปลี่ยนเป็นลองส่งเสริมด้าน engineer เล่น lego, puzzles & คอมพ์ ดูนะ เผื่อจะนั่งเงียบๆเขียนโปรแกรมอยู่ด้วยกันทั้งบ้าน อิอิ

เพราะจอนจอนก็ชอบ Lego & Puzzles มากๆอยู่แล้วด้วย เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เงียบได้ (ก็ไม่เงียบนะ…พูดคนเดียว สอนตัวเองไปด้วยตลอดเวลา)

ถ้าอีกหน่อยโตแล้ว คิดอยากเป็น entertainer จริงๆค่อยส่งเสริมละกัน

ความจริงจะโตแล้วชอบอะไร มีพรสวรรค์อะไร พ่อแม่ก็มีส่วนมากๆอยู่ คนเรานั้นแทบไม่มีพรสวรรค์ตั้งแต่เกิด … เพราะไม่ว่าจะ โมสาร์ท บิล เกต สตีฟ จ็อบส์ ล้วนแต่พ่อแม่ส่งเสริมให้โอกาสให้ใช้เวลาอยู่กับบางอย่างเช่น ดนตรี หรือคอมพ์ มากๆตั้งแต่เด็กทั้งนั้น

บิล เกตส์ มีคอมพ์เป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก (เหมือนโอ๊ต) เริ่มลองโปรแกรมแต่เด็ก

สตีฟ จ็อบส์ ก็เล่น electronics ของพ่อ มีพ่อสอนให้ใช้และสร้างอุปกรณ์ต่างๆตั้งแต่เด็ก

จอนจอนก็เลยมีคอมพ์ประจำตัว เหมือนกัน…เริ่มจากไปใช้ที่ library ก่อน แล้วตอนนี้มามี้เอา iMac เก่า กับ เมาส์เด็กมา set ให้ใช้แล้ว … โตอีกหน่อยจะสอน programming ละ

แทนที่จะเล่นเกมส์ เขียนเกมส์เล่นเองเลยลูก

จอนจอนเป็นเด็ก active มาก เวลานอนที่โรงเรียน ก็ได้ที่นอนพิเศษหน้าประตู (ยิ่งทำให้จอนจอนนอนไม่หลับ แต่ห่างจากเด็กคนอื่น จะได้ไม่รบกวนคนอื่นเขาจะนอน)

คุยก็เก่ง… non-stop… เวลากินข้าวที่โรงเรียนก็จะ คุยๆๆๆๆ จน Miss Kelly ถามว่า Do you want miss Kelly to feed you? จอนจอนก็จะรีบบอก No I can eat by myself แล้วกินเอง แล้วก็คุยต่ออีก บางทีก็ลุกนั่งลุกยืน Teacher Belma บอกว่า Jonathan, sit down, butt on your seat~

(จนมี น้อง เบบี้โฮป พาย ฟ้าใส มามี้แด๊ดดี้ถึงเพิ่งเข้าใจ ว่าที่คนชอบบอกว่า ลูกเล็กๆน่ารักเหมือนตุ๊กตานี่มันเป็นยังไง เพราะจอนจอนไม่ใช่เลยยย อ้อ…เหมือนเหมือนกัน…เหมือนตุ๊กตา Energizer Bunny on Steroid :p — outlasts every other toy.)

ความจำดีมาก จำได้หมดว่า อะไรอยู่่ที่ไหน ในบ้าน มามี้หา little dust pan จะเอามากวาด media center จอนจอนก็รีบวิ่งไปหยิบมาให้จากใต้ sink เล็ก…มามี้ลืมชื่อแม่ของ เคธลิน กับ แวเลอรี่ จอนจอนก็บอกให้ว่าชื่อ เทีย

เมื่อวาน จอนจอน เตรียมหนังสือจะให้มามี้อ่านเรื่อง Monster Inc. ให้ฟัง มามี้หยิบติดมือออกไปด้วย

แอบเห็นจอนจอนเดินหาหนังสือ พร้อมกับพูดว่า “หายไปไหนแล้ว หายไปไหนแล้วน้า” ตลกน่ารักจังเลยจ้ะ

พอมามี้บอกว่าอยู่กับมามี้เองครับ จอนจอนก็ดีใจใหญ่เลย

ตอนนี้จอนจอนเริ่มดูวีดีโอรู้เรื่อง (แบบมั่วๆ) เช่น ร้องไห้สงสาร Chris the horse  กับร้องไห้แงๆ สงสาร Chomper ที่จะถูก Sharp Tooth หม่ำๆ ซึ่งความจริงแล้ว เค้าเป็นแม่ลูกกันเน้อ…ไร้เดียงสาจริงๆลูกมามี้

พลังทำลายล้างเข้าขั้นสูงสุด (รึยัง?)…

ลูกบิดประตู หลุด ทุกบาน เพราะจอนจอนเล่นทำตัวเป็น Bulldozer ม่านขาด เชือกหลุด/ขาด กำแพง พื้น ประตู ต่างมีรอยวาดรูป แปะสติ๊กเกอร์อยู่ทั่วไป เตียงและโซฟาเป็นที่กระโดด/ role play สร้าง cave, etc. (พวกเราจะซื้อโซฟาเซ็ตใหม่ เลยไม่ซื้อละ เดี๋ยวจอนจอนถล่มพัง…)

ของสำคัญของมามี้แด๊ดดี้ จอนจอนจะยิ่งเอาไปเล่น พูดเท่าไหร่ก็รับฟัง แต่ก็ทำอยู่ดี … แต่อย่างน้อยก็จำได้ว่าเอาไปเล่นไว้ที่ไหน ตอนแรกมามี้คิดว่าหายซะแล้ว…

ตอนนี้มามี้แด๊ดดี้ต้องทำใจ เด็กก็แบบนี้แหละ ต้องสอนไปเรื่อยๆว่าอย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนนะลูก แต่ก็จะเกิดเรื่อยๆ ยังไงของก็ต้องพัง พัง พัง … พังในบ้านพอไหว…อย่าไปพังของคนอื่นละกันนะลูกนะ

เวลาทำแล้ว จอนจอนก็จะสารภาพผิด ขอโทษครับ แล้วก็พยายามเช็ด พยายามเก็บ อยู่ประมาณนึง…เป็นเด็กดี แต่ซนจริงๆเลยเราน่ะ…

 

Happy Birthday เด็ก 3 ขวบ คร้าบ

ซื้อ Bounce House with Slide มาให้ Energizer Bunny ลูกรัก ซะหน่อย… มันมีเครื่องเป่าลมขนาดยักษ์มาให้ และเป็นแบบ commercial คือต้องเสียบปลั๊กเป่าไว้ตลอดเวลา … ทนทานขนานแท้

ปล. ตอนนี้แด๊ดกับมะ พยายามอธิบายให้จอนจอนเข้าใจอยู่ว่า ต้องให้แด๊ดกับมะคุยกันสองคนบ้าง จอนจอนต้องเงียบให้บ้าง และแด๊ดกับมะก็ต้องมีเวลาสองคนบ้าง ไม่ใช่จอนจอนต้องเป็นศูนย์กลางตลอดครับ

เด็กดี

ยิ้มหวานนิดๆเป็นกุลสตรีจัง

เพราะเวลายิ้มเยอะแล้วหนูแก้มจะปริ

พาน้องไปฉีดยามา…นี่ถ้าไม่มีแด๊ดดี้ไปด้วย จะขนาดไหนเนี่ย…โชคดีกลับมาน้องนอนเยอะมากกก มีตื่นมาร้องไห้ว๊ากๆๆๆๆ หยุดไม่ได้รอบเดียว นอกนั้นตื่นมากินแล้วก็นอน

ปล. บ้าน

ตอนนี้พวกเราทาสีโรงรถเล็ก ที่ convert จะทำเป็น library & ที่จอดรถ McQueen ของจอนจอน

และก็ทาผนัง Loft ด้วย

พวกเราอยากได้สไตล์ Venetian Plaster มานานแล้ว หาอยู่นาน ว่าจะทำ technique plaster, lime wash ยังไง … ในที่สุดก็ค้นพบ … มันง่ายมากกกก … วิธีทาสีให้เหมือน venetian plaster lime wash เรียกว่า faux painting – colorwash – ดูเสร็จพวกเราก็ไป Sherwin Williams ซื้อสี ซื้อ glaze ซื้อถุงมือ แล้วก็ลุย ให้จอนจอนช่วยฉีดน้ำไปด้วย เป็นการทาสีที่ relaxing ป้ายๆวนๆไป

ผลออกมาถูกใจมากเลยล่ะจ้ะ Old World สะใจ เหมือนกำแพงอยู่มาเป็น centuries แล้วสีตก

ส่วนผนังโรงรถทาแบบ faux colorwash เหมือนกัน

สีแบบนี้เห็นแล้วนึกถึง Tuscany & Venice

และก็ทำ wainscoting เพิ่มอีก

เราเปลี่ยน thermostat เป็น Nest มันใช้ดีจริงๆนะ ควบคุมด้วยมือถือ และก็ learning ด้วย

ถึงนานๆทีจะโง่หน่อย อยู่ดีๆก็เซ็ตซะ 58f บ้าง 79f บ้าง  โดยรวมถือว่าใช้ดี ฉลาดใช้ได้ ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นเป็นอย่างมาก

แด๊ดดี้ก็ว่าจะย้ายทีม … ขั้นตอนเยอะจริง ไม่ง่ายเหมือนบริษัทเล็กๆนะ ตอนนี้ กูเกิ้ลมันชักจะ form over substance มากขึ้นทุกทีๆ … มามี้จะชวนแด๊ดไปทำ a start-up ด้วยกันละ แต่เอาซักปีหน้าเนอะ

 

 

This entry was posted in Blog ภาษาไทย. Bookmark the permalink.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *