Pleasure in the simplest things

 

อาทิตย์ที่แล้ว JonJon หกล้ม หน้าทิ่มพื้นเป็นครั้งแรก ที่ Stanford
ปากแตกเลย ร้องไห้

 

พอหยุดร้องน้ำตาก็ยังเอ่ออยู่ที่ตาอีกนานเป็นชั่วโมง น่ารักน่าสงสาร

 

Froggy Potty

อยู่ๆ พอเข้า 2 ขวบ ก็อยากถอด diaper ขึ้นมา ไม่อยากใส่แล้ว

เลี้ยงกระโถนกบ เป็นสัตว์เลี้ยงทั้งวัน

ต้องพยายามไป pee & poop to feed potty

เดือนที่ผ่านมานี้ จอนจอนนั่ง Froggy potty เอง ยกมาอวด แล้วเอาไปเทในชักโครก แล้วกดเอง แล้วเอามาให้มามี้ล้าง (บางทีก็ปีนขึ้นไปเปิดก๊อกล้าง potty เอง) เก่งสุดๆ น่าภูมิใจมากเลยครับ

มีวันนึง มามี้เห็นจอนจอนเล่นอยู่ที่ train table สนุกสนาน

มามี้ก็เลยไปอาบน้ำสระผม จนใกล้เสร็จ มามี้ก็กำลังคิดในใจว่า “ชีวิตช่างมีความสุขอะไรอย่างนี้น้า ลูกเราโตแล้ว เลี้ยงง่าย เล่นเองก็ได้ เราได้มีเวลาสระผมนานๆสบายๆอย่างนี้ด้วย หุหุ”

แล้วมามี้ก็ได้ยินจอนจอนเรียกมามี้ แล้วก็เดินมาหาที่ห้องน้ำ…

พอมามี้เปิดประตู shower ออกไปจ๊ะเอ๋ … ก็เห็น จอนจอน ถืออึสองก้อน มาโชว์มามี้ พร้อมกับบอกว่า “JonJon’s poop” (==’)

มามี้รีบล้างมือและอาบน้ำให้ แล้วปลอบว่า ไม่เป็นไร พลาดกันได้ครับ สงสัยเล่นเพลิน ลืมไปนั่ง potty

พอออกมาจากห้องน้ำ…OMG บ้านเละเทะไปหมดเลย…มามี้ต้องเช็ดขนานใหญ่…เอาของเล่น รถไฟ รถบรรทุก เลโก้ ใส่ถังมาล้างใหม่หมด…

จบกันเพิ่งอาบน้ำสระผมซะสะอาด…เฮ้อ… ยังไงๆ โจนาธานก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ดี… 🙂 แต่จอนจอนเก่งมากลูก รู้จักหยุดตัวเองได้ แล้วเดินมาขอความช่วยเหลือ

จอนจอนนิสัยดีน่ารัก พยายามช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ

ชอบไปดู และ ช่วย Wayne เก็บเบอรรี่แห้งๆ ใส่ถังขยะ Mommy กลัวหมีน้อยจะไปรบกวนเค้า แต่ Wayne ตอบว่า No. He’s quite a helper. 🙂

 

เวลาหมีน้อยรู้ตัวว่าดื้อก็จะพยายามหยุดตัวเอง เช่นบอกตัวเองที่พูดไม่หยุดตอนก่อนนอน ว่า “Please stop play.” (ยังงี้ก็มีด้วยแฮะ) และบอกมามี้ว่า “มามี้…ไม่พูดแย้วครับ…”

เวลาเล่นอะไรซนๆที่ไม่ควรเล่น เช่นไปเล่น แจกันของลิซ่า แล้วมามี้บอกไม่ให้เล่น เดี๋ยวแตก จอนจอนยังแอบเล่นอีก จอนจอนก็บอกตัวเองเสียงดังว่า “No. Stop it! Stop it!” ทำเอา ลิซ่าหัวเราะใหญ่

ลิซ่าคิดว่าหมีน้อยเป็นเด็กที่นิสัยดีที่สุดที่เค้าเคยเห็นมา เค้าสงสัยว่าเป็นเพราะทั้งมามี้แด๊ดดี้ soft-spoken & never angry? 🙂 ความจริงมันก็ไม่ขนาดที่เค้าเห็นนะจ๊ะ ลูกหมีน้อยก็มี tantrum บ้าง เป็นครั้งคราว 🙂

หมีน้อยพูดไทยน่ารัก แต่ไม่ค่อยยอมพูด พูดแต่ละครั้งน่ารัก ตลกสุดๆ (มันเหน่อๆ มีสไตล์)

มีวันนึง มามี้ถามลอยๆว่า “เอ…แด๊ดดี้อยู่ไหนน้า”

หมีน้อยรีบบอกว่า –> “โอ๊ตปะป๊ะอยู้หนี่ ปอกแอปเปิ้ลยู” “ราวังมีด”

เมื่อคืนนี้หมีน้อยก็บอกว่า “จอนจอนเด็กดี๊ ไม่ใช่เด๊กดื๋อ” (เด็กดี ไม่ใช่เด็กดื้อ)

(เทคนิคบ้านเราในการสอนให้ลูกเป็นเด็กดี คือพ่อแม่ก็ต้องมีเหตุผล และก็อดทน (ความคาดหวังต่ำสุดๆ)

ให้เหตุผลแบบที่เด็กจะเข้าใจ และก็พูดกันยาวๆหน่อย แต่ไม่น่าเบื่อ

พร้อมมีตัวอย่างที่ชัดเจนให้ดู)

อ้อ ช่วงนี้มีมุกตลกมาเล่น เช่น

JonJon: Mommy, you know “why”?

Mommy: Why? I don’t know.

JonJon: …. kiki  — Wai…kiki  (ไม่ใช่ Why แต่ Wai  เล่นคำพ้องเสียงเอามาถามปัญหาเชาว์มามี้)

ชอบร้องเพลง แต่แด๊ดดี้แซวว่าร้อง “ยังกะไจแอนท์” :~ แง… (ความจริงผมไม่ได้ยินที่แด๊ดแซวหรอกครับ แด๊ดแอบกระซิบมะ)

Lady’s Man?

จอนจอนมี taste ชอบผู้หญิงสวยๆแต่งหน้าจัดๆตั้งแต่เล็กๆละ

ตอนกลับไปเมืองไทย ไปขึ้น นกแอร์

โห…จอนจอนเหลียวหลัง ขวับๆ

แถมชอบจ้องคนสวยแต่งหน้าจัด ซะเค้าเสีย self ไปเลย

กลับมาอเมริกานี่ ไม่ค่อยเห็นสาวในสเป็คจอนจอน แต่พอมาเจอลิซ่า ซึ่งเป็นนางงาม

รองมิสเวียตนามออฟแคลิฟอร์เนีย สวยเด็ด หุ่นเป๊ะ แต่งหน้าทำผม แต่งตัวสวยงาม

จอนจอนเกาะขาเค้าหนึบเชียว เรียกหา ลิซ่า ลิซ่า พอลงจากรถ ก็รีบเดินไปกอดขาเค้า ให้เค้าอุ้ม แถมเดินตามเค้าต้อยๆ

ลูกเรานี่ไม่เหมือนพ่อเลยแฮะ แด๊ดดี้นี่ไม่เคยจะสนใครเลย มีแต่ไม่ชอบคุยกับผู้หญิง

ต้องมามี้ชมก่อนว่าคนนี้สวย แด๊ดดี้ถึงจะนานๆทีเห็นด้วย เช่น ลิซ่านี่แหละ

แต่ส่วนใหญ่แด๊ดดี้จะบอกว่า “ไม่สวยเท่ามามี้นะ … เค้าดูดีเพราะแต่งหน้า…” (ใจดีจัง)

 

บ้านใหม่ที่เราจะสร้างใน Palo Alto นั้น ท่าทางจะอีกนานกว่าจะได้สร้าง เพราะขอ permit แก้ไปแก้มาตามที่ซิตี้ต้องการ นานเหลือเกิน ค่าสถาปนิกกับค่าซิตี้เหยียบล้านบาทแล้ว กว่าจะเสร็จก็อาจจะอีกปีกว่าสองปี

ลูกหมีน้อยอดทนมากเลย ที่ตามมามี้ แด๊ดดี้ไปทำเรื่องซิตี้ เรื่องบ้าน และหาหมอ ได้เกือบทุกวัน

แต่บางวันหมีน้อยก็อยากไป playground

ตอนอยู่ในรถ ก็คอยกังวลว่า Oh! It’s getting dark. The playground’s gonna close. สงสารหมีน้อยจัง แด๊ดดี้ก็เครียด มีทั้งงานและยังมีเรื่องต้องปวดหัวเกี่ยวกับสถาปนิก วิศวกร ซิตี้ ผู้รับเหมา อีก โดนซิตี้กับสถาปนิกปรับแบบไปๆมาๆ กลายเป็นไม่ถูกใจ แถมเล็กลงเรื่อยๆ

เวลาแด๊ดดี้ มามี้ ยุ่ง หมีน้อยก็จะพยายามอดทน แต่บางทีก็กลายเป็นดื้อ พูดอะไรก็ไม่ฟัง

เอาแต่พูดว่า No No I don’t want this. 🙁  เพื่อให้มามี้แด๊ดดี้สนใจ

บางทีกลางคืนหมีน้อยก็ฝันร้าย มี night terror

บางทีมามี้แด๊ดดี้ก็คิดว่า เรา reward หมีน้อยตอนหมีน้อยมี good behavior น้อยไปหน่อย เวลายุ่งๆ

ก็เลยต้องลดเวลาทำเรื่องอื่น และให้เวลาลูกมากขึ้น

ตอนนี้เราให้บริษัท start-up เช่าบ้านเราที่ Palo Alto บ้านหลังนี้ท่าทางจะมี magic dust คนเช่าที่ผ่านมาสองกลุ่ม ตอนมาเริ่มต้นเช่า เค้าทำบ้านเราเป็น start-up เล็กๆ ที่ได้ funding จากบริษัท VC ตอนนี้กลายเป็น start-up ที่รุ่งมากทั้งคู่ ได้ลง techcrunch และก็ไปได้ดีทีเดียว

แด๊ดดี้มามี้คุยกันเล่นๆว่า อีกหน่อย เราคงทำบ้านนี้เป็นเหมือน HP Garage, Google Garage ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปได้ 😛

ตอนนี้เราก็หาบ้านอีกหลังที่จะซื้อเพื่อเข้าไปอยู่ภายในไม่กี่เดือนนี้… ในช่วงสองปีมานี้ เราไปดูบ้านกันมากกว่า 100 หลังเลยล่ะจ้ะ

โจนาธานชอบเรียกภูเขาสีส้มด้านหลัง ว่า Carrot mountains ตามจินตนาการของเด็ก ^.^

 

เกณฑ์สำคัญที่เราใช้เลือกบ้านก็คือ โรงเรียนของรัฐต้องได้ 10/10

ที่อเมริกาใช้ระบบ โควต้าโรงเรียนใกล้บ้าน ความจริงแล้ว ผลก็คือ คนรวยได้เรียนโรงเรียนดีๆอยู่ดี ไม่ได้มีความเท่าเทียมแต่อย่างใด

เพราะว่าบ้านที่ใกล้โรงเรียนของรัฐที่คะแนนสูงๆ ก็จะราคาแพงลิบลิ่ว คนไม่มีเงินก็ซื้อไม่ไหวอยู่ดี มีแต่คนรวยๆ พ่อแม่มีเวลา ส่งเสริมการศึกษาลูก ที่จะสามารถซื้อบ้านให้ลูกได้เข้าโรงเรียนนั้นได้

คนไม่มีเงินก็ไปอยู่รวมกันที่ๆคะแนนไม่ดี สภาพแวดล้อมไม่ดี โรงเรียนไม่ดี ลูกก็คะแนนไม่ดีต่อไป…

_______________________________________________________________

ตอนนี้โจนาธานชอบเรื่องตื่นเต้นเร้าใจของเด็ก ชอบฟังเรื่อง spooky

สิ่งที่กลัวหลักๆมีอยู่สองอย่างคือ

ฟ้าร้อง thunderstorm

จอนจอนปลอบใจตัวเองว่า There’s no thunderstorm in Palo Alto. But there’s thunderstorm in Thailand. และก็ถามว่า Pupu Yaya กลัว thunderstorm?

อีกอย่างคือกลัว Big bad wolf  จากเรื่องหนูน้อยหมวกแดง กับ ลูกหมูสามตัว

________________________________________________

ตลอดครึ่งปีมานี้ จอนจอนมีความฝันว่าอยากจะกลับไปไทยแลนด์ ไปหาคุณปู่คุณย่า

เห็นเครื่องบินก็คิดถึงคุณปู่ คุณย่า เห็นรถมินิคูเปอร์ ก็คิดถึงคุณปู่

เห็นอะไรที่จะโยงเข้าเรื่อง ไทยแลนด์ ได้ก็มักจะพูดถึง

มักจะพูดเสมอว่า คุณปู่บอกว่า กลับไปไทยแลนด์แล้วจะนั่ง front of mini cooper with pupu. Pupu drives mini cooper to buy ice cream at the ice cream shop.

 

“To look upon his beautiful face brings pure joy to my heart. The sounds that he makes are music to my senses. He reminds me that life is such an incredible gift and it’s important to cherish every moment, for none of us knows what tomorrow may bring.”

Trains, Cars, and Trucks…

 

My passion for vehicles is so infectious that mommy and daddy now share the passion. I could name all types of trucks and models of cars before age 2, and my curiosity still continues.

 

 

Advanced Speech

Not only am I a tall boy (Dr. Lloyd says, “We can expect him to be very tall…”), but everybody also notes that I’m extremely verbal and bright for my age. I talk in full sentences with big words and even complex sentences with cause and effect. People usually think I’m older than my age. People usually oooh aaah… “His vocabulary is so amazing.”

December 2011 (24 months)

Cute sentences

If mommy asked, “why / ทำไม…” I would reply “because xiao pu xiao.jewknmjvu8e;womvkl;aew” and then gave mommy a big smile. (รู้ว่าต้องตอบ because เหตุผลแต่พูดไม่เป็น)

But just before I turned 2, I started to express real reasons. For example, I wanted to put on my Stanford Jacket because it’s handsome.  “ใส่ Stanford Jacket …. Handsome”

Also, I told the story in my Tag Jr book: “Mater is sad because McQueen’s running on the bridge @#J%*#$($)...” (long explanation.)

One day, I turned on Thomas train, but couldn’t turn it off. The train kept running. I ran to mommy, saying “Mommy, JonJon needs help. เดี๋ยว Thomas แบตหมด”

One night, I recapped what happened that day, at the dining table. “Mommys beetle car’s gotten flat tire. So this man changed new wheel for beetle car of mommy.”

Haaa… after I uttered all these words, I felt so proud of myself, and mommy and daddy were also excited. I’m happy that I made mommy and daddy proud. 🙂

– ตอนนี้ผมถอดรองเท้า ถุงเท้าเอง เวลากลับถึงบ้านนะครับ

ผมจะนั่ง พูดว่า “sit” ที่หน้าบ้าน แล้วถอดรองเท้าเอง ก่อนเข้าบ้าน อย่างเรียบร้อย

– ผมเป็นเด็กช่างคิด อย่างเช่น วันนึงผมไปเล่นที่บ้านเรา ที่บ็อบเป็นสถาปนิก ผมเรียกบ้านใหม่ว่า Bob’s house (นึกว่าเป็นบ้านของบ็อบ) มามี้เอาเก้าอี้ Thomas ไปให้ผมเล่นที่นั่นด้วย

พอกลับมาบ้านที่เราอยู่ปัจจุบัน วันนึง เก้าอี้ Thomas ก็ตามมาหาผมที่หน้าบ้าน โดยมามี้บอกว่า Thomas ตามผมกลับมา…

หลังจากคิดเงียบๆอยู่หลายวัน ในที่สุดก็ผมคิดออกว่า Thomas ตามมาได้ยังไง

ผมบอกมามี้กับแด๊ดดี้ว่า “Bob ส่ง Thomas มาให้จอนจอน” … 

ไม่งั้นเก้าอี้จะตามผมมาได้ยังไงล่ะครับ…ก็ต้องบ็อบส่งมาให้ผมแน่ๆเลย…อิอิ นิทานหลอกเด็กใช้กับผมไม่ค่อยได้หรอกนะ

______________________________________________________________

Also, I always help with household chores. When daddy accidentally dropped the whole plate of rice, JonJon eagerly came to help collect the rice and put it in the trash can. The other day when daddy burnt the dryer, I took out my lego firetruck to help extinguish the fire.

Sharing – mommy always teach me to share, explaining to me with reasons and fun stuffs. As a result, I am the least greedy toddler mommy and daddy have ever seen. I would always share my stuffs, and I’m happy when I see other kids happy.  One day at JCC’s happy hours, there’s a small boy who wanted to play with my ball. I shared it with him, and he kept staring at me with gratitude. Later on when he stopped playing with the ball, I still handed the ball to him.

Mommy showers me with lots of kisses and hugs all day long. One cannot receive too many hugs. 🙂

ตอนนี้ผมยังเด็ก บางทีผมก็ร้องไห้ เพราะเข้าใจผิด อยู่บ่อยๆ   หลายๆครั้งที่ผมร้องไห้ แล้วมามี้ก็บอกว่าผมกำลังเข้าใจผิดอยู่ ถ้าเข้าใจถูกก็จะหยุดร้อง  เช่น จะออกจากบ้านไปเที่ยว แต่ผมนึกว่าอดไป

ล่าสุดที่ Stanford Bookstore ผมได้ gum balls มาสองลูก ผมดีใจมาก  … เอาไปแชร์กับ puppy doggy กับ monkey … ซักพัก ผมก็หันไปหามามี้ แล้วก็พูดๆพีมพัมๆแล้วก็ร้องไห้ ดังลั่น bookstore เลย  ผมตกใจ “monkey talk” :~~~ ลิงพูดได้กั๊บ แงงงงงงงง….

เมืองที่ผมอยู่นี้ไม่ค่อยมีคนผิวสี ผมเห็นคนผิวสีก็ชอบคิดว่าเป็นลิง (==’) แม้แต่ท่านปธน.โอบามา ผมก็ยังเคยนึกว่าเป็นลิงเลย เฮ้อ…  คราวนี้เอากัมบอลไปแบ่งคนผิวสี เพราะนึกว่าเค้าเป็นลิง ปรากฏว่าเค้าตอบกลับมา พูดคุยเล่นด้วยเลย … ผมตกใจมาก ร้องไห้ไม่หยุด …​  เซ่อมั๊ยล่ะผม

This entry was posted in Blog ภาษาไทย, English. Bookmark the permalink.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *